พวกเราคือใคร?

พวกเราเคยเป็นคนๆนึงที่ถูกทำให้เชื่อและมองตัวเองเป็นจุดศูนย์กลางของจักรวาล เคยเข้าใจว่าตัวเองฉลาด (ทั้งที่จริงๆแล้ว เราอยู่ในตำแหน่งเกือบจะล่างสุดของห่วงโซ่การแข่งขันของโลกทุนนิยมเลยด้วยซ้ำ) เราเคยคิดที่จะเปลี่ยนแปลงโลกรอบตัวเรา เคยพยายามสร้างความมั่งคั่งร่ำรวยจากการเป็นผู้ประกอบการและนักลงทุนในกิจการต่างๆ พวกเราเสาะแสวงหาความรู้ด้านการลงทุนจากทุกช่องทางที่ทำได้ในตอนนั้น

​

เป้าหมายในช่วงแรกคือความร่ำรวย ซึ่งหมายถึงการมีเงินมากๆ การลงสนามในช่วงแรกของพวกเรา จึง action ออกมาว่าเราคือคนเก่งที่เข้าใจตลาด โดยพวกเราไม่รู้ตัวเลยว่าเรากำลังเดินผิดทาง สุดท้ายทางนั้นก็พาเราประสบกับปัญหาต่างๆ มากมายที่เราก็ไม่ได้คาดคิดว่าจะเจอ ความน่าเจ็บใจที่สุดคือ กำไรชั่วคราวที่เคยชื่นชม กลับกลายเป็นหนี้สินก้อนโต ความมั่นใจที่เคยมีกลับกลายเป็นความวิตกกังวล คำถามมากมายยิ่งฝังรากลึกลงไปในก้นจิตว่า สรุปแล้ว ทางนี้มันใช่จริงๆ เหรอ(วะ?)

​

คำถามยังคงค้างคาใจ แต่เราก็ยังคงเดินทางต่อ จนได้มีโอกาสมาพบกับท่านอาจารย์ทวีสุข ธรรมศักดิ์ สิ่งแรกที่อาจารย์ได้มอบให้ก่อนเลยคือ “สติ” ก่อนที่อาจารย์จะเริ่มสอนให้เราได้เข้าใจกลไกการทำงานอย่าง “เชื่อมโยง” กันของกลุ่มคน ที่ออกแบบระบบที่ขับเคลื่อนโลกใบนี้ ผ่านคอร์ส The World Economic God Father ทำให้เราได้คำตอบของหลายๆ คำถามที่ไม่เคยมีใครอธิบายได้ เราเริ่มเชื่อมโยงเรื่องราว กระบวนการทำงาน การรับส่งลูกบอลของผู้เล่นในแต่ละตำแหน่งอย่างมีนัยยะ การสร้างกฎเกณฑ์กติกาที่คนส่วนใหญ่ไม่มีวันเข้าใจ และเมื่อไม่เข้าใจ ก็จะไม่มีทางที่จะเล่นเกมส์นี้ชนะได้ ระบบยังถูกออกแบบมาเพื่อดึงคนส่วนใหญ่ให้ออกห่างจากองค์ความรู้เหล่านี้อย่างจงใจ

​

💡 ถ้าหากไม่มีอาจารย์ในวันนั้น ก็คงไม่มีพวกเราในวันนี้ 🙏

​

พวกเราถูกอบรมสั่งสอนผ่านหลักสูตรนักวางแผนการเงินของท่านอาจารย์ทวีสุข นอกจากการได้รับองค์ความรู้ทางการเงิน และการเชื่อมโยงข้อมูลแล้ว พวกเรายังได้รับโอกาสให้เข้าไปร่วมเป็นทีมค้นคว้า ทำงานวิจัย และสรุปข้อมูลต่างๆ จากทั่วโลก เพื่อนำเสนอให้กับผู้บริหารระดับสูงขององค์กรชั้นนำระดับประเทศ ตลอดจนนำข้อมูลบางส่วนมาถ่ายทอดสู่สังคมผ่านการ live บนช่องทางออนไลน์ต่างๆ และถ่ายทอดออกมาเป็นตัวหนังสือผ่านงานเขียนของพวกเรา 

​

ประสบการณ์ความรู้และความเข้าใจโลกภายนอกที่ได้รับมา บวกกับการสำรวจโลกภายในผ่านการ Research ตัวเองทำให้พวกเราได้ตระหนัก และเข้าใจโลกใบนี้ในมิติต่างๆ มากขึ้นไปอีก พวกเราจึงได้พบความจริงอีกขั้นหนึ่งว่า …

​

สังคมมนุษย์ของเราอยู่ในระบบที่ถูกออกแบบมาอย่างซับซ้อน พวกเราถูกสอนให้มองระบบนี้แบบแยกส่วนการทำงาน และไม่ได้มีความเกี่ยวข้องกัน ทั้งๆที่มันยังคงทำงานสอดคล้องกันมาอย่างต่อเนื่อง เราถูกสอนให้มองเหรียญทั้งสอนด้าน และสามารถเลือกด้านใดก็ได้ที่เราเห็นพ้อง เพื่อทำให้เรามีความ “รู้สึก” ว่ามีอิสระในการเลือก แต่แท้จริงแล้วความอิสระนั้นก็ยังคงอยู่ในกรอบที่ถูกขีดเส้นไว้ ระบบที่ซับซ้อนนี้ถูกพัฒนาต่อยอดขึ้นมาเรื่อยๆ ตามกาลเวลาตลอดช่วงเกือบๆ สามร้อยปีที่ผ่านมานี้ โดยที่ยังคงแก่นของเป้าหมายเดิมไว้อย่างเหนียวแน่นตามที่ปราชญ์อาวุโสได้วางรากฐานไว้

​

ในฐานะที่พวกเราเองก็เป็นเพียงแค่คนธรรมดาในสังคม ไม่ได้มีฐานะหรืออำนาจใดๆในสังคม เราตั้งคำถามกับตัวเองมาโดยตลอดว่า แล้วนี่มันยังเหลืออะไรให้ตูทำได้อีกนิ? หรือ เราจะใช้ชีวิตต่อไปอย่างไรต่อดีหลังจากที่รู้เรื่องพวกนี้แล้ว? เพราะแน่นอนว่า เราไม่สามารถเปลี่ยนแปลงระบบได้แน่ๆ อย่าว่าแต่ระบบเลย แค่คนรอบตัวเรา เรายังไม่สามารถเปลี่ยนคนอื่นได้เลย สิ่งเดียวที่เราสามารถเปลี่ยนแปลงได้คือตัวของเราเอง ว่าเราจะตอบสนอง (React) อย่างไรเวลาที่เราต้องเจอกับสถานการณ์ต่างๆในชีวิต ที่ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อให้ระบบนี้เดินหน้าต่อไป 

​​

💡พวกเราจึงเลือกที่จะ #unplugging ตัวเองออกมาจากระบบ เพื่อที่จะได้เริ่มเดินหน้าเข้าสู่เส้นทางที่จะหลุดพ้นจาก The Matrix ที่พวกเขาครอบเราไว้🔑

​

หลังจากที่พวกเราได้เริ่มลงมือทำมาระยะนึงจนค่อนข้างมั่นใจว่า เราน่าจะเดินมาถูกทาง พวกเราจึงพอจะพูดได้ว่าพวกเราค้นหาเส้นทางที่เหมาะสมกับตัวเองแล้ว และยังเป็นเส้นทางที่อนุญาตให้เราได้สร้างประโยชน์ต่อตัวเอง ต่อผู้อื่น และต่อประเทศชาติ ไปพร้อมๆกันได้อีกด้วย เราจึงอยากจะเรียกกระบวนการนี้ว่ามันคือการที่พวกเรากำลัง unplug ตัวเอง (ที่มาของชื่อเพจ/เว็บนี้ unplug + ing = unplugging) เพื่อเดินหน้าไปสู่เส้นทางที่จะได้ออกจากระบบ เพื่อที่จะออกจากความฉลาด ไปสู่การมีปัญญาที่มากขึ้น

พวกเราจึงอยากจะเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้คนรอบตัวของเราได้เริ่มต้นเข้าใจกลไกการทำงานของสิ่งที่ขับเคลื่อนสังคมโลกใบนี้ที่ซ่อนตัวอยู่ในมุมที่ไม่ถูกพูดถึงนัก เพื่อให้ทุกคนสามารถที่จะเลือกเส้นทางไปสู่เป้าหมายของตัวเองได้ อย่างมีความสงบ และมีความสุขได้เช่นกันครับ/ค่ะ​​​​